มันคือสารอนุมูล

รูปภาพ: etsy
It's the radicals, man...
สารอนุมูลอิสระเป็นอนุมูลอะตอมหรือกลุ่มของอะตอมที่ไม่มีคู่ของอิเล็กตรอนและยังจะสามารถรวมตัวเป็นโมเลกุลที่มีออกซิเจนรวมอยู่ด้วย และเมื่อสร้างเป็นโมเลกุลที่รวมตัวกับออกซิเจนมันจะเป็นโมเลกุลที่มีความไวต่อการแตกตัวต่อเนื่องเหมือนกับโดมิโน สิ่งเลวร้ายที่มันทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของเราก็ต่อเมื่อมันไปรวมตัวทำให้เกิดปฏิกิริยาแตกตัวกับเซลล์ที่มีความสำคัญกับร่างกายอย่างเช่น ดีเอ็นเอ หรือเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ จนทำให้เซลล์เหล่านั้นทำงานไม่ได้หรือตายไป ฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันสารอนุมูลอิสระมาก่อตัวจนสร้างความเสียหาย ร่างกายจึงสร้างระบบภูมิคุ้มกันในการต่อต้านการรวมตัวของสารอนุมูลอิสระ หรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ได้ยินกันนั่นเอง
สารต่อต้านอนุมูลอิสระนั้นก็เป็นโมเลกุลอีกตัวหนึ่งที่สามารถเกิดปฏิกิริยาที่ปลอดภัยกับอนุมูลอิสะและยับยั้งปฏิกิริยาลูกโซ่ก่อนที่มันจะสร้างความเสียหายร้ายแรงกับโมเลกุลปกติของร่างกาย และถึงแม้ร่ายกายจะมีระบบเอ็นไซม์มากมายที่สามารถย่อยสลายสารอนุมูลอิสระไปได้ ก็ต้องอาศัยสารอาหารต้นกำเนิดอย่างวิตามิน E, เบต้า-แคโรทีน และวิตามิน C และรวมไปถึงเซเลเนียม ที่บางครั้งจะเป็นอยู่ในลิสต์สารอาหารที่ต้องการ โดยที่มันเป็นสารโลหะชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการเพื่อให้การทำงานของระบบเอ็นไซม์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระทำงานได้อย่างที่ถูกต้อง แต่ข่าวร้ายคือ ร่างกายเราไม่สามารถผลิตสารอาหารต้นกำเนิดพวกวิตามินได้ ซึ่งพวกมันต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร หรืออาหารเสริมนั่นเอง
วิตามิน E : ดี-อัลฟ่า โตโคฟีโรล เป็นวิตามินที่ถูกดูดซึมได้ดีในน้ำมันที่จะพบได้ในถั่วต่างๆ, เมล็ดพืชต่างๆ, ผัก และน้ำมันปลา, ธันยพืช (เช่น เมล็ดข้าวสาลี), ซีเรียลที่เพิ่มสารอาหาร, และแอพรีคอท ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 15 IU สำหรับผู้ชาย และ 12 IU สำหรับผู้หญิง
วิตามิน C : กรดแอสคอบิค หรือวิตามินที่ถูกดูดซึมได้ดีในน้ำ พบได้จากผลไม้รสเปรี้ยวและน้ำผลไม้, พริกเขียว, กะหล่ำ, ผักโขม, บรอคโคลี่, สาหร่าย, แคนตาลูป, กีวี, และสตรอเบอร์รี่ โดยมีปริมาณที่แนะนำต่อวัน 60 มิลลิกรัม สำหรับบางคนถ้าได้รับเกิน 2000 มิลลิกรัมอาจทำให้มีผลข้างเคียงได้
เบต้า-แคโรทีน หรือสารเบื้องต้นก่อนเป็นวิตามิน A (เรตินอล) ซึ่งจะพบได้ในตับ, ไข่แดง, นม, เนย, ผักโขม, แครอท, สควอช, บรอคโคลี่, มันหวาน, มะเขือเทศ, แคนตาลูป, พีช, และเมล็ดพืชต่างๆ ก็เพราะว่าเบต้า-แคโรทีนนั่นจะถูกเปลี่ยนไปเป็นวิตามิน A โดยร่างกายของเราตามปกติ จึงไม่มีปริมาณที่ต้องได้รับในแต่ละวันแนะนำ (บันทึก: วิตามิน A เองไม่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระแถมยังจะเป็นพิษซอีกถ้าได้รับในปริมาณที่มากเกินไป)
ที่มา: Rice.edu
Tags: Free radicals, antioxidants, สารต่อต้านอนุมูลอิสระ