การช่วยชีวิตให้พ้นความตายกับการปรับเปลี่ยนร่างกายจากหัวจรดเท้า
       รูปภาพ:  Tom MertonGetty Images


โดย เจฟ คซาทารี 

“ฉันกรีดร้องแต่พวกเขาไม่ได้ยิน ฉันต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของฉัน”


แจนเนต ดาร์เด็น นักกีฬาว่ายน้ำที่แข็งแกร่ง กำลังพาตัวเองพร้อมลูกสาววัย 6 ขวบบนหลังของเธอไปบนสันดอนทรายในอารุบ้า แต่ทันใดนั้นเธอเริ่มต้องหาอากาศหายใจและฟุบลง “เพื่อนของฉันอยู่ห่างไป 45 หลาและไม่ได้ยินที่ฉันเรียก ฉันคิดว่า ‘มันจบแล้ว’” เธอนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น

โชคยังดีที่เกรกเพื่อนคนหนึ่งสังเกตเห็นว่าเธอกำลังพยายามดิ้นรนให้หัวของเธอพ้นน้ำและได้ช่วยดึงเธอขึ้นไปบนหาดทราย แต่เรื่องของเธอไม่ได้จบลงแค่นั้นเมื่อเธอกลับมาหายใจเป็นปกติอีกครั้ง เธอกลับบ้านที่ออแรนโด,ฟลอริด้า เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเธอมีลิ้นหัวใจรั่วร้ายแรง “คุณมีอาการหัวใจล้มเหลว” หมอบอกกับเธอ “คุณต้องตรวจผิดคนอย่างแน่นอน” ฉันบอกหมอ “ฉันแข็งแรงดีมาตลอด”

2 วันต่อมา ดาร์เด็นเข้ารับการผ่าตัดหัวใจเพื่อแก้ไขลิ้นหัวใจที่ไม่ยอมปิด และนี่เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ที่เธอได้รับการช่วยชีวิต แต่เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นทำให้เกิดแผลเป็นในใจเธอ การฟื้นคืนเป็นไปอย่างช้าและเต็มไปด้วยความซับซ้อน ยังมีก้อนเลือดขนาดเท่าลูกเกรปฟลุตอุดตันอยู่ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดอีกครั้งและมันทำให้เธอเจ็บปวดอย่างมาก และนั่นคือเธอหยุดการออกกำลังกายทั้งหมด เธอเริ่มทานอาหารมากขึ้นและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 40 ปอนด์ (18 กิโลกรัม) ทำให้เธอมีน้ำหนักมากที่สุดในชีวิตถึง 187 ปอนด์ (85.4 กิโลกรัม)

ดาร์เด็นเป็นนักกีฬาและไม่เคยอ้วนมีไขมันมาก่อน เธอมีคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติเมื่อตอนเธออายุ 42 และ 45 ปี แม้กระทั่งระหว่างมีครรภ์เพื่อนๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำได้ยังไง “แจนเนต แขนเธอมันดูเหลือเชื่อมาก” ส่วนสามีของเธอก็เป็นที่รู้จักดีว่าคือนายแพทย์เอลลิงตั้น ดาร์เด็น นักวิจัยการออกกำลังกายและผู้เขียนหนังสือ เดอะ บอร์ดี้ แฟต เบรคทรู เมื่อตอนพบกันครั้งแรก เอลลิงตั้นตกหลุมรักเธอจากแขนที่สวยงาม “คุณมีกล้ามเนื้อที่ยาวและมีประสิทธิภาพที่ใช้สร้างกล้ามเนื้อที่มีรูปร่างสวยงามชัดเจนและทรงพลัง” เขาบอกเธอด้วยความรัก “มันเป็นความรักทันทีเมื่อได้เห็น”

ครอบครัวดาร์เด็นมีห้องออกกำลังกายเต็มรูปแบบไว้ที่บ้าน แต่แจนเนตไม่สามารถพาตัวเองไปใช้มัน “ฉันมีความคิดที่หดหู่อย่างมาก ฉันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” เธอบอก “ฉันรักเสื้อผ้า แต่เสื้อผ้าไม่พอดีกับรูปร่างของฉันอีกต่อไป ฉันเริ่มที่จะรู้สึกเกลียดตัวเอง”
นั่นเมื่อมันคลิ๊กคิดได้ เธอรู้ว่ามันขึ้นอยู่กับเธอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เธอเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ : สาวทางใต้คนนี้จากที่เติบโตมาด้วยชาใส่น้ำตาลเลิกดื่มน้ำที่ผสมน้ำตาลและไวน์ ดืมแต่น้ำเปล่า เธอน้อมรับวิธีการซุเปร์ไฮเดรชั่น “ระเบิดไขมัน” จากงานวิจัยของสามีเธอด้วยการดื่มน้ำเย็นวันละ 1 แกลลอน


“ฉันมีแก้วส่วนตัวบลูทัมเบล้อขนาด 18 ออนซ์พร้อมหลอดไม่ห่างหัว ฉันค่อยเติมน้ำเย็นเอาไว้เสมอ”

เพียงทำเปลี่ยนตัวเองแค่นั้นแจนเนตรู้สึกได้ว่ากางเกงตัวยักษ์ของเธอเริ่มหลวม ต่อไปเธอเริ่มจำกัดจำนวนแคลอรี่ที่เธอทานโดยใช้จานที่เล็กลงตอนมื้อเย็น “ปริมาณที่ฉันทานปกตินั้นมีแป้งเป็นส่วนประกอบอยู่ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็น: ฉันก็แค่ทานน้อยลงสำหรับทุกอย่าง “เธอเริ่มทำบันทึกรายการอาหารเก็บไว้”

เมื่อฉันเริ่มทำจนติดเป็นนิสัยอย่างมีวินัยแล้วเมื่อดูระดับความเปลี่ยนแปลง ฉันไม่กลัวอีกต่อไป” เธอเพิ่มโปรแกรมออกกำลังกายด้วย 30-30-30 เนกกะทีฟ เทรนนิ่งโปรแกรม (การออกกำลังช้าๆ ให้กล้ามเนื้อได้ใช้งาน) จากหนังสือของสามีและเฝ้าดูจำนวนแคลอรี่ ใน 20 สัปดาห์ เธอลดได้ 37 ปอนด์ (16.7 กิโลกรัม) และพุงของเธอหายไป แถมยังเธอสามารถกลับไปใส่ยีนส์สกินนี่ของเธอได้อีกด้วย ตอนนี้เธอกลับมามีน้ำหนัก 146 ปอนด์ (66.2 กิโลกรัม) กับอีก 3 ปอนด์ของกล้ามเนื้อชุดใหม่ของเธอ และไขมันรอบตัวเพียง 19 เปอร์เซ็น เทียบกับเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว มันเคยอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็น

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความหดหู่ของดาร์เด็นหายไป “ความมั่นใจของฉันกลับมาเป็นเหมือนเดิม และฉันรู้สึกโชคดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่”



ที่มา:  Prevention  

Tag:  Depressed, Negative, Training

มาส์กหน้าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ชื่นชอบของฉัน มันง่ายที่จะใช้ สนุกและให้ผลที่ยอดเยี่ยม 

6 สารอาหารสำหรับผมสุขภาพดี

8 อาหารสำคัญต่อความงามของผิวคุณ

5 วิธี บำรุงผิวจากอาหาร

จะใช้เฟซมาส์กต้องทำยังไง?

ฉันได้ลอง 4 เทรนด์การแต่งหน้าเกาหลี – และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น

  • Slide Title

    Write your caption here

    Button
  • Slide Title

    Write your caption here

    Button
  • Slide Title

    Write your caption here

    Button