5 ความเชื่อของการบำรุงผิวที่คุณจะไม่รู้ไม่ได้
และอยู่ห่างความเชื่อนั้นไว้ดีกว่า

รูปภาพ: pinterest
โดย เจนีเวียฟ เจมส์
อะไรคือสิ่งที่คุณไม่รู้ หรือเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งที่คุณรู้ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ย้อนรอยแห่งวัยว่ามันสามารถทำให้ผิวของคุณคงสภาพสวยใสไปได้ตลอด การจะดึงออกมาจากสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำด้วยความรู้ทางวิทยาศาตร์ (ที่เป็นความจริง) มันไม่ได้ซับซ้อนจนเกินไป เพียงคุณมุ่งมั่นกับพื้นฐานสองสามข้อ ผิวของคุณก็สามารถที่จะแลดูอ่อนเยาว์ลงนานกว่าที่คุณคิดว่าเป็นไปได้ แพทย์ผิวหนังจากนครนิวยอร์กเดนนิส กรอสได้กล่าวไว้ นี่คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญได้แยกความจริงออกจากเรื่องที่คนเขียนขึ้น เพื่อที่เผยแนวทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้หน้าคุณย้อนวัยไปได้หลายปี
ความเชื่อ: ผิวควรรู้สึกตึงหลังการล้างทำความสะอาด
ความจริง: ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกสดชื่นและอ่อนนุ่มแล้วละก็ อาจเป็นไปได้ว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวของคุณนั้นรุนแรงต่อผิวของคุณเกินไป ส่วนผสมสารเคมีสำหรับการทำความสะอาดสิ่งสกปรกอย่างแทอร์เจ้นท์ที่รุนแรงเกินไปสามารถทำให้ริ้วรอยของคุณเพิ่มขึ้นเนื่องจากมันทำให้สูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติของผิวและกลับทำให้หน้ามีน้ำมันมากขึ้นจนมากเกินไปจากการระคายเคืองเพราะขาดน้ำมันในตอนแรก เมื่อผิวขาดน้ำมันตามธรรมชาติมากเกินไปผิวจึงผลิตเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากผิวมีระบบการป้องกันตัวเองและให้ความชุ่มชื่นโดยธรรมชาติอยู่แล้วนั่นเอง แต่ก็มีสารเคมีจำพวกอื่นที่ไม่ทำให้ผิวเราสูญเสียน้ำมันและความชุ่มชื่นออกไปหมด เรากำลังพูดถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสักอย่างหนึ่งที่เข้มข้นไปด้วยสารคงดูดจับความชื้นไฮเดรเตอร์อย่างกลีเซอรินและสารประกอบลดการตึงผิวของน้ำชนิดอ่อนโยนที่ได้จากธรรมชาติเช่นเกลือโซเดียมหรือไดโซเดียม โคคิว กลูตาเมท หรือ โคคาไมโดโพรพิ้ว PG-ไดโมเนียม คลอไรด์ ฟอสเฟต (CPG) ที่ได้จากคุณสมบัติการดูดซับน้ำของน้ำมันมะพร้าว “พวกมันจะชำระล้างเครื่องสำอางค์แต่คงความชุ่มชื่นของผิวไว้” กล่าวโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากมหาวิทยาลัยไมอามี มารีแอนน่า บลูมิน-คาราซิก เราขอแนะนำให้ลองอวาลอง ออแกนิคส์ ลาเวนเดอร์รีนิววอลเฟเชียลเคลนซิ่งเจล (420 บาท จากร้านขายยา) และออริจินส์ เนเวอร์ อะ ดัล โมเม้นต์ สกิน-ไบรท์เท็นนิ่ง เคลนเซอร์ (647.50 บาท ของออริจินส์)
ความเชื่อ: ผลิตภัณฑ์ของร้านขายยานั้นไม่ดี
ความจริง: ถ้าไม่ต้องไปดูว่าขายที่ไหนแล้วนั้น ผลิตภัณฑ์ต่อต่นการเกิดรอยแห่งวัยส่วนมากมีส่วนประกอบที่สำคัญเหมือนๆกัน กล่าวโดยนายแพทย์เดวิด แบงค์ แพทย์ผิวหนังจากเมาท์คิสโก้ นิวยอร์ก และรวมถึงผลทดลองทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสารต่อต้านวัยอย่างเช่นเรตินอยด์, กรดอัลฟ่า ไฮดรอกซี่, เปปไทด์ และสารกลุ่มต่อต้านอนุมูลพวกวิตามิน C และชาเขียว จะให้คุ้มกับเงินที่คุณจะต้องเสียนั้นดูจากการออกแบบการบรรจุด้วยว่าสามารถรักษาความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์และแข็งแรงคงทน: ขวดปั๊มสุญญากาศที่จะป้องกันออกซิเจน (และนิ้วมือของเรา) ไม่ได้โดนเนื้อครีม ในขณะเดียวกันรอบของบรรจุภัณฑ์ก็ต้องเคลือบสารป้องกันหรือลดแสงแดด นอกจากนี้ก็ตรวจสอบด้วยว่าฉลากที่อธิบายส่วนประกอบนั้นเขียนถึงสารประกอบตัวเร่งการเกิดใหม่ของเซลล์ที่คุณต้องการอยู่เป็นอันดับต้นๆของรายการทั้งหลาย
ความเชื่อ: ส่วนผสมต่อต้านวัยทำให้ผิวดูแย่ลง
ความจริง: โดยทั่วไปครีมและโลชั่นต่างๆ จะไม่ทิ้งรอยแดงและร่องรอยอย่างจากการทำเลเซอร์หรือเหมือนจากการสัมผัสสารเคมี สารผลัดเซลล์ผิวใหม่อย่างเรตินอยด์ ที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นตัวของเซลล์ผิวและกระตุ้นการผลิตสารคอลลาเจนที่เป็นส่วนผสมอยู่นั้นอาจจะทำให้คุณระคายเคืองได้ไม่น้อยจนทำให้คุณต้องคิดดูอีกครั้งที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นต่อไป แต่มันกลับเป็นข้อผิดพลาดอย่างมากถ้าคุณทำอย่างนั้นแต่ยังต้องการผลลัพธ์ของมัน เตรียมผิวของคุณให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลสักสองสัปดาห์ด้วยสารต่อต้านอนุมูลเช่นชาเขียว จากนั้นเริ่มที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอยด์จากระดับอ่อนโยนก่อน (OTC Retinol) แล้วจึงค่อยเพิ่มความเข้มข้นของมันอย่างประเภท RX (ซึ่งอาจจะระคายเคือง) ลองเซรั่มเติมน้ำให้กับผิวชาเขียวและกุหลาบของจอห์น มาสเตอร์ ออแกนิกส์ (910 บาท ที่จอห์นมาสเตอร์.คอม) และ RoC เรตินอลคอเรคชั่นเซนซิทีฟไนท์ครีม (805 บาท) หลังจากที่ผิวของคุณพร้อมดีแล้ว ผสมเรตินอลปริมาณเท่าเมล็ดถั่วกับผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าของคุณเพื่อเพิ่มความชุ่มชิ่นและใช้อย่างนี้ทุกๆคืนที่สองและสามของการเริ่มต้น ผิวยังแห้งเกินไปอยู่หรือไม่? สร้างความต้านทานให้กับผิวสักสองถึงสามสัปดาห์โดยการทาครีมทิ้งไว้ 5 นาทีทุกคืนแล้วล้างออก เมื่อผิวคุณคุ้นเคยดีแล้ว ถึงจะเริ่มใช้เรตินอลอย่างเดียวเต็มในแต่ละคืนต่อๆไป
ความเชื่อ: ถ้าผลิตภัณฑ์เห็นผลช้า เปลี่ยนมันซะ
ความจริง: มันสำคัญมากที่จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ ให้ครบขั้นตอนการบำรุงหนึ่งๆ นานเพียงพอที่จะเห็นการทำงานของผลิตภัณฑ์นั้นว่าอะไรที่ถูกกับผิวของคุณและอะไรที่ไม่ใช่ ฉันขอแนะนำให้รอ 8 ถึง 10 สัปดาห์ ก่อนที่จะเลิกใช้ผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างและลองผลิตภัณฑ์ตัวถัดไป กล่าวโดย รศ.นายแพทย์มาร์ก จี. รูบิน ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย, รัฐซานดิเอโก้ และผู้เขียนหนังสือเรื่องยัวร์สกินยังเกอร์ และต้องที่จะไม่ลืมว่าไม่ใช่ทุกคนที่ผิวจะตอบสนองตัวผสมเพื่อต่อต้านวัยแบบเดียวกัน ส่วนผสมที่เป็นองค์ประกอบสำคัญให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกันสำหรับทุกคน เพียงแต่ระดับของผลลัพธ์เท่านั้นที่จะแตกต่างกันได้
ความเชื่อ: หลังจากอายุขึ้นเลข 4 แล้วนั้น สาร SPF ปกป้องผิวจากแสงแดดไม่มีผลอีกต่อไป
ความจริง: ห้ามเลิกใช้ SPF เด็ดขาด – มีหลากหลายสาเหตุจากแสงแดดที่ส่งผลเสียต่อการเกิดริ้วรอยแห่งวัย การปกป้องผิวในทุกๆวันนั้นจริงๆแล้วมีส่วนทำให้ผิวมีเวลาที่จะฟื้นตัว ซ่อมแซมจากผลกระทบต่างๆ ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเวทมนตร์ใดที่ทำให้ผิวของคุณหยุดการดูดซับแสงแดด เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันรัวสีจองแดดด้วย SPF 30 หรือสูงกว่าทีหลังสุดหลังจากที่ได้ทาครีมบำรุงหรือมอยส์เจอร์ไรเชอร์ อย่าง อะโวเบนโซน, เมกโซริว หรือซิงค์ออกไซด์ ที่เป็นตัวช่วยในการปกป้องรังสีแสงแดด UVA ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ลองนูโทรจิน่าอัลตร้าเชียร์สูตรน้ำ ที่มีค่า SPF 15 (420 บาท) หรือลาโรงเชอร์-โพเซ่ แอนธิลิออส 45 อัลตราไลท์ซันสกรีนสูนน้ำ (1,050 บาท)
ที่มา: Prevention
Tag: บำรุงผิว